เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2461 หลวงพ่อลือเป็นพระธุดงค์ผ่านมา เห็นว่าพระประธานในอุโบสถยังไม่มี จึงรับอาสาที่จะสร้างให้ (มาทราบภายหลังว่าท่านเป็นผู้มีฝีมือในการปั้นองค์พระประธาน ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าอาวาสวัดสามประชุม อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ท่านมักจะสร้างพระประธานให้กับวัดที่ท่านธุดงค์ผ่านไปเห็น เมื่อสร้างเสร็จท่านเดินทางกลับวัดสามประชุม และท่านตั้งชื่อพระประธานองค์นี้ว่า “หลวงพ่อลือ” อันจะเป็นชื่อที่ “ลือกระฉ่อนขจรไกล” ต่อมาหลวงพ่อลือได้มรณภาพในปี 2510 และมีการประชุมเพลิงในปีต่อมา ขณะที่กระทำพิธีเกิดเหตุการณ์ประจักษ์แก่สายตาประชาชนจำนวนนับพันต่างเห็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวมีดาวล้อมรอบ ทำให้บริเวณนั้นเงียบสงัดเหมือนกับทุกคนโดนสะกดจิต ทำให้คิดว่าเทพเทวดาได้มาร่วมประชุมเพลิงด้วย จากการสัมภาษณ์อาจารย์วิเชษฐ์ พุทธเกษม อายุ 60 ปี เกิดปี พ.ศ. 2501 ท่านเป็นข้าราชการครูอยู่ที่โรงเรียนวังกรดพิทยาและเป็นประธานชมรมพระเครื่องย่านเก่าวังกรด อาจารย์วิเชษฐ์เล่าว่า สำหรับการสร้างพระเครื่องรุ่นแรก ของวัดวังกลมมีสาเหตุมาจากในระหว่างที่พระครูธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเปลี่ยน) เจ้าอาวาสองค์ที่ 12 ของวัดวังกลม ในครั้งแรกท่านตั้งใจจะนำพระเครื่องชุดนี้บรรจุหน้าบรรณของศาลาการเปรียญหลังนี้แต่เนื่องจากในปี พ.ศ. 2511 การสร้างศาลาการเปรียญวัดวังกลมยังไม่ลุล่วง ท่านจึงได้มอบวัตถุมงคลจำนวนหนึ่งซึ่งสร้างจากผงและว่านที่รวบรวมมากว่า 5 ปี สร้างเป็นพระเครื่องรุ่นแรกในปี 2511 ซึ่งสร้างขึ้นตามตำรับหลวงพ่อเงินและหลวงพ่อเดิมทุกประการจากนั้นหลวงพ่อเปลี่ยนจึงมอบพระเครื่องชุดนี้ให้กรรมการวัดจัดจำหน่ายจนศาลาการเปรียญสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งพระเครื่องชุดนี้ก่อเกิดปาฏิหาริย์แก่ผู้นำไปบูชามากมาย เช่น ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเปลี่ยนเดินทางไปกรุงเทพฯแล้วถูกรถยนต์ชนตัวท่านกระเด็นไปหลายวา ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์คิดว่าท่าเสียชีวิตแล้วเพราะท่านไม่รู้สึกตัว ตัวท่านเขียวไปหมดแล้วท่านนอนสลบอยู่ที่โรงพยาบาล 7 วัน ท่านไม่มีบาดแผลใดๆ มีเพียงรอยฟกช้ำเท่านั้นผู้เห็นเหตุการณ์ เมื่อทราบเช่นนั้นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันไปเยี่ยมเพราะคิดว่าท่านต้องมีของดี ท่านจึงให้ดูว่าท่านมีพระหลวงพ่อลือรุ่นแรกอยู่ในย่ามอย่างเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นจึงมีการสร้างพระเครื่องรุ่นต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน