รางวัลการอนุรักษ์อาคาร สถาปัตยกรรมบ้านหลวงประเทืองคดี
รางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ประจำปี ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔ บ้านหลวงประเทืองคดี
จังหวัดพิจิตร อาคารแห่งนี้มีความสำคัญอย่างมากในการเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น นับได้ว่ามีการอนุรักษ์ที่เกิดจากความตั้งใจของผู้ครอบครองและท้องถิ่น ในกระบวนการอนุรักษ์มีการศึกษาข้อมูล การประเมินความเสื่อมสภาพ และการเลือกวิธีการอนุรักษ์ จนสามารถรักษาองค์ประกอบสำคัญได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาเรื่องการเลือกใช้สีและองค์ประกอบในพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร ที่จะไม่รบกวนความเป็นของแท้ดั้งเดิมของอาคาร
ที่ตั้งเลขที่ 197/4 หมู่ 1 ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร สถาปนิก/ผู้ออกแบบไม่ปรากฏชื่อผู้ออกแบบ /สร้างโดยช่างชาวเวียดนามชื่อ นายบัว
ผู้ออกแบบอนุรักษ์ / ปรับปรุง กรมศิลปากร /สถาปนิกผู้บูรณะ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มิตรเมืองเก่า ๒๕๔๔/ ผู้ครอบครอง เทศบาลตำบลวังกรด/ ปีที่สร้าง พุทธศักราช 2471
ข้อมูลและภาพอ้างอิง/ ช่างภาพ: วศิน ภุมรินทร์
ประวัติและผลงาน: ช่างภาพอิสระ มีความชำนาญพิเศษในการถ่ายงานสถาปัตยกรรม, Interior, Cityscape ถ่ายงานสารคดี และถ่ายภาพบุคคล มีผลงานเผยแพร่ ทั้งสื่อออนไลน์และนิตยสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น Fearless Organization, WPJA, Room Magazine, Nature Explorer, ATG, อสท https://virtualexpo.asa.or.th/content/page6_award/7
บ้านหลวงประเทืองคดี ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ของชุมชนตลาดวังกรด สร้างขึ้นในพุทธศักราช 2471 เดิมชาวบ้านเรียกบ้านหลังนี้ว่า “บ้านคุณนายแจง” ตามชื่อเจ้าของบ้านเดิมที่เป็นผู้ครอบครอง คือ นางแจงและนายทอง ไทยตรง ซึ่งทั้งสองท่านเป็นชาวเวียดนามที่อพยพมาอยู่เมืองไทย มีบุตรชายหญิง 5 คน ต่อมานายทอง ไทยตรง ซึ่งเป็นคนสนิทท่านโฮจิมินห์ถูกลอบสังหาร นางแจงจึงให้หลวงประเทืองคดีว่าความทำให้มีความสนิทกันและตกลงอยู่กินเป็นสามีภรรยากันและใช้บ้านหลังนี้เป็นสำนักงานให้บริการด้านกฎหมายแก่ประชาชน ใช้ชื่อบ้านว่า “บ้านหลวงประเทืองคดี” สำหรับหลวงประเทืองคดี อดีตเคยรับราชการเป็นอัยการ ต่อมาได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเมืองคนแรกของจังหวัดพิจิตร นอกจากนี้ท่านยังเป็นบุคคลสำคัญของชาวตลาดวังกรด โดยเป็นผู้ริเริ่มและสนับสนุนให้ชาวบ้านสร้างตลาดวังกรดและเป็นผู้นำการสร้างศาลเจ้าพ่อวังกลม รวมทั้งเป็นที่พึ่งของชาวบ้านวังกรดในเรื่องต่าง ๆ มากมาย เมื่อนางแจงเสียชีวิต และบุตรชายหญิง 4 คน ได้เสียชีวิตเหลือเพียง พันเอกพิเศษ นายแพทย์วรสิทธิ์ ไทยตรง บุตรคนสุดท้ายของนางแจงจึงได้เป็นผู้ครอบครองบ้านหลวงประเทืองคดี ต่อมาพันเอกพิเศษ นายแพทย์วรสิทธิ์ ไทยตรง ได้มอบบ้านหลังนี้ให้กับเทศบาลตำบลวังกรดในพุทธศักราช 2559 หลังจากนั้นจังหวัดพิจิตรได้สนับสนุนประมาณในการปรับปรุงฟื้นฟูจนแล้วเสร็จในพุทธศักราช 2560 และเปิดใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนตลาดวังกรด
บ้านหลวงประเทืองคดี เป็นอาคารก่ออิฐฉาบปูนหลังแรกของชุมชนตลาดวังกรด สร้างโดยช่างชาวเวียดนาม ชื่อนายบัว โดยใช้อิฐที่ปั้นและเผาเอง ปูนหมักแบบโบราณ เป็นอาคารสูง 2 ชั้น และมีห้องใต้ดิน รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก กว้าง 13.60 เมตร ยาว 10.70 เมตร พื้นที่รวมประมาณ 145.52 ตารางเมตร ผนังอาคารหลักเป็นผนังก่ออิฐรับน้ำหนัก ผังพื้นอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ห้องใต้ดินขนาดความกว้างประมาณ 3.80 เมตร ยาว 5.00 เมตร ลึก 1.30 เมตร ซึ่งใช้เป็นที่หลบภัยเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังใช้เก็บทรัพย์สินและหลบซ่อนตัว พื้นที่ใช้สอยชั้นล่างประกอบด้วย ห้องทำงานของหลวงประเทืองคดี โถงกลาง ห้องดื่มน้ำชา ระเบียงหน้าบันไดด้านหน้าบ้านสำหรับขึ้นชั้นสอง และระเบียงหน้าบันไดด้านหลังบ้านสำหรับขึ้นชั้นสอง ส่วนชั้นบนประกอบด้วยห้องโถงใหญ่ขนาด ห้องนอน โถงกลาง ระเบียงหน้าบันไดด้านหน้าบ้านสำหรับลงชั้นล่าง ระเบียงหน้าบันไดด้านหลังบ้านสำหรับลงชั้นล่าง และบันไดขึ้นดาดฟ้า โดยห้องแต่ละห้องทั้งชั้นล่างและชั้นบนเชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดิน บริเวณหลังบ้านมีบ่อน้ำบาดาลแบบโบราณอายุประมาณ 90 ปี
บ้านหลวงประเทืองคดี เป็นตัวอย่างของการปรับปรุงฟื้นฟูด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ มีการทำความเข้าใจภาพรวมของชุมชนและประเมินความเป็นไปได้ในการอนุรักษ์ ดำเนินการสำรวจข้อมูล และเปิดเวทีเสวนากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมและสร้างจิตสำนึกความเป็นเจ้าของ สื่อสารคุณค่าและความงามทางสถาปัตยกรรม สรุปรูปแบบการปรับปรุงฟื้นฟู จัดหางบประมาณ และดำเนินการปรับปรุงฟื้นฟูตามหลักวิชาการ ทำให้บ้านหลังนี้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และการอนุรักษ์และพัฒนาชุมชนตลาดวังกรด